เชื่อเลยว่า ผู้อ่านหลายๆ ท่านต้องเคยพลาดพลั้งใช้ไม้แขวนเสื้อที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เสื้อผ้าตัวโปรดของคุณเสียรูปเสียทรงกันมาแล้ว ฉะนั้น บทความนี้เราจึงจะมาพูดคุยกันถึงเรื่องประเภทของไม้แขวนเสื้อ และข้อเสียของไม้แขวนเสื้อแต่ละประเภทกัน เพื่อให้ผู้อ่านได้นำข้อมูลความรู้เหล่านี้ไปปรับใช้ไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการเลือกซื้อไม้แขวนเสื้อสำหรับแขวนเสื้อผ้าตัวโปรดอีก
ประเภทของไม้แขวนเสื้อ
- ประเภทของไม้แขวนเสื้อ ประเภทที่ 1 : ไม้แขวนเสื้อพลาสติค เป็นไม้แขวนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีลักษณะเบา ราคาถูกกว่าไม้แขวนประเภทอื่นๆ แถมยังสะดวกต่อการหาซื้อ และต่อการใช้งานอีกด้วย ซึ่งไม้แขวนเสื้อพลาสติคนั้นจะเหมาะสำหรับเสื้อผ้าประเภทเสื้อโปโล, เสื้อยืด หรือแม้แต่กางเกงยีนส์ เป็นต้น
- ประเภทของไม้แขวนเสื้อ ประเภทที่ 2 : ไม้แขวนเสื้อไม้ ไม้แขวนเสื้อประเภทนี้มีการออกแบบให้มีความโค้งงอ และหนา ดังนั้น ไม้แขวนเหล่านี้จึงสามารถรับน้ำหนักได้มาก อีกทั้งยังช่วยให้เสื้อผ้าไม่เสียทรงได้อีกด้วย ซึ่งไม้แขวนเสื้อไม้นั้นจะเหมาะสำหรับเสื้อผ้าประเภทเสื้อสเวตเตอร์, ชุดสูท และเสื้อคลุม เป็นต้น
- ประเภทของไม้แขวนเสื้อ ประเภทที่ 3 : ไม้แขวนเสื้อเหล็ก ไม้แขวนแบบเหล็กนั้นนอกจากจะมีความแข็งแรงทนทานแล้ว ยังมีการออกแบบให้เพรียวบางเพื่อเพิ่มความรู้สึกคลาสสิกให้กับตู้เสื้อผ้าอีกด้วย และด้วยความแข็งแรงทนทานจากเหล็กนี้ ไม้แขวนเสื้อเหล็กจึงเหมาะกับเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักมาก เช่น เสื้อกันหนาว หรือเสื้อโค้ท เป็นต้น
ข้อเสียของไม้แขวนเสื้อแต่ละประเภท
- ข้อเสียของไม้แขวนเสื้อแบบพลาสติค ไม่แขวนแบบพลาสติคมีราคาถูก บอบบาง ชำรุดง่าย อายุการใช้งานน้อย ใช้ไม่กี่ครั้งก็ต้องทิ้ง จึงไม่เหมาะสำหรับการรักษารูปทรงของเสื้อผ้า อีกทั้งจะยิ่งทำให้เสื้อผ้ามีอายุการใช้งานที่สั้นลงอีกด้วย
- ข้อเสียของไม้แขวนเสื้อแบบลวด ไม้แขวนแบบลวดจะมีข้อเสียที่ไม่แตกต่างจากไม้แขวนพลาสติกมากนัก โดยจะมีข้อเสียเพิ่มเข้ามาอีกนิด คือ ไม้แขวนแบบลวดนี้ก่อให้เกิดสนิมได้ง่าย จนทำให้เกิดความเสียหายกับเสื้อผ้าได้อีกด้วย
และข้อเสียของไม้แขวนเสื้อประเภทสุดท้าย คือ ไม้แขวนเสื้อแบบไม้ ไม้แขวนแบบไม้ มีข้อเสียอยู่เพียงข้อเดียว คือ มีราคาที่สูงกว่ารูปแบบอื่นๆ เนื่องจากไม้แขวนแบบไม้จะทำจากไม้ที่แข็งแรง จึงไม่โค้งงอง่าย สามารถรักษาโครงสร้างของเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ คือ ไม้แขวนแบบไม้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปนั่นเอง